นายกรัฐมนตรีไทยและลาว ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและมหาวิทยาลัยสุภานุวงศ์ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ
.
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล - นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย และนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้านความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสองสถาบันการศึกษาชั้นนำของทั้งสองประเทศ
.
โดยผู้ลงนามประกอบด้วย ผศ.ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และ รศ.วิระ อาโนลัก อธิการบดีมหาวิทยาลัยสุภานุวงศ์ ซึ่งบันทึกความเข้าใจฉบับนี้มุ่งเน้นการพัฒนาความร่วมมือในหลายด้าน อาทิ การแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากร การจัดการฝึกอบรม ตลอดจนการทำวิจัยร่วมกัน เพื่อยกระดับมาตรฐานการศึกษาและเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ
.
การลงนามครั้งนี้จัดขึ้นในวาระพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นและความร่วมมือที่ครอบคลุมในทุกมิติระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงยังได้ร่วมในพิธีเปิดตัวตราสัญลักษณ์เฉลิมฉลองโอกาสพิเศษดังกล่าว พร้อมร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับผู้นำของทั้งสองประเทศอีกด้วย
.
อนึ่งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและมหาวิทยาลัยสุภานุวงศ์ ได้รักษาความร่วมมือทางวิชาการมาอย่างแน่นแฟ้น ผ่านโครงการแลกเปลี่ยนและกิจกรรมความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง โครงการที่โดดเด่นรวมถึงค่ายเยาวชนอาเซียน ซึ่งนักศึกษาจากทั้งสองมหาวิทยาลัยได้ร่วมทำกิจกรรมด้วยกันที่เชียงราย ประเทศไทย และหลวงพระบาง สปป.ลาว นอกจากนี้ทั้งสองมหาวิทยาลัยยังได้ร่วมมือกันในโครงการทางวิชาการ เช่น การพัฒนาป้ายบอกทางอัจฉริยะสำหรับการท่องเที่ยวในหลวงพระบาง ซึ่งนำโดยสำนักวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลประยุกต์ของ MFU
.
ในอนาคต ทั้งสองมหาวิทยาลัยมีแผนที่จะขยายความร่วมมือ โดยเฉพาะในภาคเหนือของลาว ด้วยการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพ โครงการสำคัญ อาทิ การจัดตั้งศูนย์สุขภาพและฝึกอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลในการให้บริการด้านสุขภาพ การจัดการฝึกอบรมด้านการแพทย์แผนไทยเพื่อรักษาและพัฒนาความเชี่ยวชาญในสาขานี้ ความพยายามเหล่านี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ MFU ในการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีและอนาคตที่ยั่งยืนในภูมิภาค
/////